คุณรู้หรือไม่ว่ามีการวิจัยทางการแพทย์ออกมาแล้ว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถเกิดขึ้นได้น้อยมากๆเมื่อคุณ ป้องกันโรคถูกวิธี ซึ่งคำว่าถูกวิธีนั้นแน่นอนว่าเรากำลังหมายถึงเรื่องถุงยางอนามัย บางคนนึกสนุกคิดว่าแบบสดมันดี มันปลอดภัย แต่เปล่าเลยมันอาจจะดีจริงแต่ความปลอดภัยแทบจะเป็น 0%
เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศเป็นเรื่องที่ค่อยข้างละเอียดอ่อน ดังนั้นก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์เราควรรู้จักวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคตามมา เช่น พวกโรคเอดส์ โรคหูดหงอนไก่ ซิฟิลิส หนองใน เลี่ยงง่ายๆแค่ใส่ถุงยางอนามัยก่อนเริ่มทำกิจกรรม ไม่ใช่แค่ดีกับตัวคุณ แต่มันยังดีไปกับคู่นอนของคุณได้ด้วยเหมือนกัน
การสวมถุงยางอนามัยเป็นเรื่องที่สมควรทำ เพราะนอกจากมันจะลดการเสียดสีระหว่างร่วมกิจกรรมบนเตียง มันยังเป็นการเซฟตัวเองให้ห่างไกลจากโรค นี่คือเรื่องถุงยางอนามัยที่คุณควรรู้ก่อนมีกิจกรรมทางเพศ
- ถุงยางอนามัยหลังควรใช้งานไม่เกิน 30 นาทีหลังจากแกะออกจากซอง เพราะหากเกินอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานลดน้อยลง
- สารต่างๆที่ก่อให้เกิดความลื่นเป็นเรื่องต้องระวัง เพราะถ้านำสารหล่อลื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาใช้สัมผัสกับถุงยางอนามัย อาจจะทำให้ถุงยางอนามัยเสียหายได้ เช่น พวกน้ำมันพืช น้ำมันมวย สารทำละลาย
- การจัดการถุงยางอนามัยหลังเสร็จกิจควรนำไปทิ้งทันที ไม่ควรนำมาใช้ต่อเพราะทุกยางที่มีการหลั่งอสุจิแล้วมักจะมีเชื้อโรคติดมาด้วย ควรจัดการด้วยการนำไปเผา หรือ ทิ้งขยะหลังเสร็จกิจทันที
- ก่อนจะใช้งานถุงยางอนามัยควรเช็คก่อนเสมอว่าถุงยางที่ซื้อมามีส่วนไหนชำรุด เสียหาย หรือมีรอยรั่วมาก่อนหน้านี้หรือไม่
โรคอันตรายเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ที่เราอยากแนะนำให้รู้จักชื่อไว้ได้แก่ โรคHPV , โรคเอดส์ , โรคหนองใน , โรคหูดหงอนไก่ , โรคตัวโลน , โรคฝีมะม่วง และ โรคซิฟิลิส คือรายชื่อ 8 โรคที่มักจะเกิดได้บ่อยในประเทศไทย ส่วนมากแล้วจะเกิดกับคนที่ไม่มีการป้องกันในระหว่างร่วมรัก กิจกรรมบนเตียง อีกในกรณีก็อาจจะเกิดจากการใช้ของซ้ำกับคนมีเชื้ออยู่แล้ว เช่น เข็มฉีดยา หรือแม้กระทั่งการมั่วคู่นอน นอนกับใครหลายคนโดยไม่ได้เช็คก่อนว่าเขามีโรคอะไรหรือเปล่า
แน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาจากสิ่งเหล่านี้คือร่างกายคุณจะบกพร่อง ภูมิต้านทานร่างกายต่ำลงจนเกิดภาวะโรคร้ายจากการมีเพศสัมพันธ์ เผลอๆในคนไข้บางรายอาจจะมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากกว่าปกติ บางรายอาจต้องเป็นไปอย่างทรมานไม่มียารักษาให้หายขาด ถ้าคุณไม่อยากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้วล่ะก็ ควรสวมถุงยางอนามัยให้ห่างเชื้อจะดีกว่า แนะนำคู่นอนของคุณให้ปฏิบัติตามเรื่องความปลอดภัยของสุขภาพอย่างเคร่งครัด เท่านี้คุณและคู่นอนก็จะปลอดภัย ไม่เกิดโรคติดต่อระหว่างมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว